รู้จัก ‘eKYC’ และ ‘TechX Data Platform’ นวัตกรรมฮีโร่จากทีม ‘SCB TechX’

: รู้จัก ‘eKYC’ และ ‘TechX Data Platform’ นวัตกรรมฮีโร่จากทีม ‘SCB TechX’

รู้จัก ‘eKYC’ และ ‘TechX Data Platform’ นวัตกรรมฮีโร่จากทีม ‘SCB TechX’

ทีม SCB TechX จัดเวิร์กช็อปเพื่อให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในตอนนี้ ว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างไร ไปจนถึงภาคธุรกิจจะหยิบเอานวัตกรรมเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยวิธีไหน

ภาพรวมของเนื้อหา

ชื่อของ SCB TechX เป็นที่รู้จักกันในฐานะบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ยานลูกของ SCBX ที่ช่วยเสริมขับเคลื่อนภารกิจยานแม่ให้ไปสู่การเป็น The Most Admired Financial Technology Group in ASEAN โดยโฟกัสไปที่การสร้างขีดความสามารถและการเติบโตใหม่ๆ ทั้งด้านเทคโนโลยี แพลตฟอร์ม และนวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าและการเติบโตในระยะยาวให้กับ SCBX รวมถึงบริษัทในกรุ๊ปและลูกค้าธุรกิจ

ขณะเดียวกัน SCB TechX ก็มีเป้าหมายเช่นกันที่จะพาตัวเองไปสู่การเป็น The Best Technology Company ระดับภูมิภาค ช่วยเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันทัดเทียมกับผู้เล่นในเวทีนานาชาติ

แล้ววันนี้ SCB TechX มีไอเท็มอะไรในมือที่จะนำพาองค์กรทะยานสู่เป้าหมายทั้งหมดที่เล่ามา ภายในบูธ AREA X by SCBX ที่จัดขึ้นในงาน Techsauce Global Summit 2023 ทีม SCB TechX จัดเวิร์กช็อปเพื่อให้เห็นถึงทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมในตอนนี้ ว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายจากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้อย่างไร ไปจนถึงภาคธุรกิจจะหยิบเอานวัตกรรมเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยวิธีไหน

เวิร์กช็อปแรก ภัทรวุฒิ ถนอมศักดิ์, Senior Product Owner, SCB TechX หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านบริการ eKYC จะพาเราไปมองภาพกว้างและลงลึกถึงความสามารถของ eKYC และข้อได้เปรียบของการนำนวัตกรรมที่ว่านี้ไปปรับใช้กับธุรกิจ โดยมี SCB TechX คอยซัพพอร์ต

ภัทรวุฒิเปิดประเด็นด้วยการชี้ให้เห็นข้อจำกัดของ KYC (Know Your Customer) ซึ่งเป็นกระบวนการยืนยันตัวตน เช่น เปิดบัญชีธนาคาร จะต้องไปที่สาขาเพื่อยืนยันตัวตน กลายเป็นเสียเวลาเดินทาง รอคิว และรอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร

“Pain Point เหล่านี้ทำให้เกิด eKYC (electronic Know Your Customer) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรูปแบบในการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สะดวก รวดเร็ว แทนการทำ KYC รูปแบบเดิมที่มีความยุ่งยากและเสียเวลา”

eKYC เข้ามามีบทบาทอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากสถิติการทำธุรกรรม e-Payment ตั้งแต่ปี 2017-2021 พบว่า มีการทำ e-Payment เพิ่มจาก 307 ล้านรายการในเดือนมกราคม 2017 เป็น 2.1 พันล้านรายการในเดือนธันวาคม 2021 สะท้อนว่าการทำธุรกรรม e-Payment ส่งผลและเปลี่ยนพฤติกรรมของคนยุคใหม่อย่างแท้จริง

นอกจากนั้น หน่วยงานภาครัฐและเอกชนก็ออกกฎระเบียบเพื่อสนับสนุนการใช้ eKYC ในการยืนยันตัวตน ภัทรวุฒิยกตัวอย่างแบงก์ชาติที่ออกกฎว่า ลูกค้าที่ทำรายการโอนเงินเกิน 50,000 บาทผ่านระบบออนไลน์จะต้องมีการยืนยันตัวตน eKYC หรือธนาคารต่างๆ ก็พัฒนาระบบเพื่อให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีออนไลน์และยืนยันตัวตน eKYC ได้โดยไม่ต้องมาที่สาขา

ไม่แต่เฉพาะลูกค้า ด้านธนาคารเองก็พบ Pain Point ในการทำธุรกรรมแบบเดิมๆ อย่างการเปิดบัญชี เมื่อปริมาณลูกค้าที่เยอะขึ้น ยิ่งต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า การเก็บข้อมูลสำคัญจำนวนมหาศาลในรูปแบบกระดาษ และ Human Error ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น นำไปสู่ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

ทาง SCB TechX จึงได้พัฒนาบริการ eKYC ขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับธุรกิจที่ต้องมีการทำ eKYC และยึดตามมาตรฐานที่กำหนดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) โดยมีบริการดังนี้

  • Liveness + OCR
    เริ่มจากลูกค้าถ่ายรูปตัวเอง (Liveness) จากนั้นถ่ายภาพบัตรประชาชน ระบบจะนำข้อมูลจากภาพถ่ายบัตรประชาชนมาเปรียบเทียบกับ Liveness เพื่อเทียบว่าลูกค้าเป็นคนเดียวกันหรือไม่ และด้วยเทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) จะแปลงข้อมูลและ Auto fill in ข้อมูลจากบัตรประชาชนแทนการพิมพ์ ทำให้ช่วยลดเวลาในการกรอกข้อมูลของลูกค้า และลดเวลาการทำรายการทั้งหมดให้เร็วขึ้น

หรือถ้าไม่อยากให้ลูกค้าถ่ายภาพบัตรประชาชน สามารถใช้รูปของลูกค้าที่มีอยู่แล้วในฐานข้อมูลมาเทียบกับรูป Liveness โดยระบบจะส่งรูปมาให้ SCB TechX ตรวจสอบว่าลูกค้าที่ต้องการทำรายการเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ เพิ่มความยืดหยุ่นในการยืนยันตัวตน

  • DOPA Gateway 
    ปัจจุบันกรมการปกครองมีบริการที่ชื่อว่า DOPA เป็นการนำข้อมูลหลักของบัตรประชาชนไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง ว่าบัตรประชาชนที่ลูกค้านำมาแสดงสามารถใช้งานได้อยู่หรือไม่ โดย SCB TechX จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการตรวจสอบข้อมูล
  • NDID Proxy
    เป็นบริการที่ภาครัฐทำขึ้นมาเพื่อเป็นตัวกลางในการเก็บข้อมูลในเครือพันธมิตร โดย SCB TechX จะเชื่อมต่อแพลตฟอร์มดิจิทัลไอดี เพื่อยืนยันตัวตนแบบ Cross Platform ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเชื่อมต่อตรงกับ NDID เอง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อและดูแลระบบลงไปได้

เพื่อยืนยันว่าทีมหลังบ้านของ SCB TechX จะช่วยให้การรันเทคโนโลยีและนวัตกรรมภายใต้การดูแลของ SCB TechX เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย ดร. ดนัย ลักษมีธนสาร, Data Science Director, SCB TechX จึงเปิดเวิร์กช็อปในหัวข้อ ‘Power your enterprise with a cutting-edge Data & AI platform’ โดยเน้นไปที่การทำงานของทีม Platforms Infrastructure และ Data Science & Engineering พร้อมพาทุกคนไปรู้จักกับ TechX Data Platform 

ดร. ดนัย ฉายภาพให้เห็นถึงความสำคัญของระบบและวิธีการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาล ในยุคที่พฤติกรรมคนยุคใหม่เกี่ยวข้องกับ Data อย่างเลี่ยงไม่ได้ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน ไม่ว่าจะฟังเพลงผ่านสตรีมมิง สั่งอาหารออนไลน์ โอน-จ่ายผ่านการทำธุรกรรมทางการเงิน พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีการ Generate Data ให้กับองค์กรต่างๆ มากมาย

นั่นหมายความว่าฟากองค์กรเองก็ต้องบริหารจัดการข้อมูลมหาศาลที่เข้ามาในแต่ละวัน เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า เพิ่มมูลค่า และลดความเสี่ยงทางธุรกิจ ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายมากสำหรับองค์กรในโลกดิจิทัล

“ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะมีพนักงานมารองรับการบริหารจัดการข้อมูลที่มีมากมายมหาศาล ขณะเดียวกันก็ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการแปลง Data ไปสู่ AI แล้วนำไปสร้างผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจ การจะเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุดไม่ใช่เรื่องง่าย การที่เราจะเข้าใจ Data ต้องประกอบด้วยหลายส่วน เช่น Data Integration, Data Management & Governance, Data Analytics & Machine Learning เป็นต้น” ดร. ดนัย กล่าว

เมื่อองค์กรส่วนใหญ่เผชิญกับปัญหาการจัดเก็บข้อมูล ทำให้วิเคราะห์ข้อมูลไม่ถูกต้อง ไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้ได้ จนพลาดโอกาสทางธุรกิจ SCB TechX จึงพัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการข้อมูลสมัยใหม่ (Modern Data Platform) ที่เรียกว่า ‘TechX Data Platform’ นำเทคโนโลยี Data Lakehouse มายกระดับการบริหารจัดการข้อมูลในองค์กรให้ง่าย เร็ว และมีประสิทธิภาพ

“TechX Data Platform เป็นแพลตฟอร์มจัดการข้อมูลสมัยใหม่ ที่สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางด้าน Data & AI ครบทุกขั้นตอนในแพลตฟอร์มเดียว ตั้งแต่การเตรียมข้อมูลทำ Report, สร้าง Dashboard การทำงานด้าน AI & Machine Learning และ Data Science ช่วยให้องค์กรและธุรกิจสามารถเข้าถึง Big Data และจัดการข้อมูลได้หลายรูปแบบ มีฟีเจอร์ที่รองรับการ Integrate, Manage, Compute และ Serve นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ AWS, Azure และ GCP นำเสนอ Cloud Solutions ที่สามารถนำข้อมูลทุกประเภทมาจัดการบน Cloud ได้ทั้งหมด

“ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความปลอดภัยของข้อมูล เราพร้อมดูแลด้านความปลอดภัยของข้อมูลด้วยมาตรฐานระดับโลก ตลอดจนครอบคลุมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (PDPA) นอกจากนี้เรายังจับมือกับ Databricks ผู้ให้บริการด้าน Data & AI ที่บริษัททั่วโลกใช้ การันตีว่าเป็นเครือข่ายที่ผ่านการรับรองทางด้านความปลอดภัยของข้อมูล Data & Network Security Certifications และ Data Security ที่เข้มแข็งตามมาตรฐานระดับโลก ISO 27001, ISO 27017, ISO 27018 และ PCI DSS” 

ดร. ดนัย เล่าถึงจุดเด่นของ TechX Data Platform ที่นำเทคโนโลยี Data Lakehouse นวัตกรรมการเก็บข้อมูลที่นำจุดเด่นของ Data Warehouse และ Data Lake รวมเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบเก็บข้อมูลที่ใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและหลากหลาย นำข้อมูลมาใช้งานได้สะดวก และมีต้นทุนในการเก็บข้อมูลต่ำกว่า Data Warehouse จึงเป็นทางเลือกในการเก็บข้อมูลสำหรับองค์กรรุ่นใหม่ที่ต้องการนำข้อมูลมาใช้อย่างเต็มศักยภาพ

“จุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือ Professional Services การให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลพร้อมให้คำปรึกษาครบวงจร สามารถวิเคราะห์ข้อมูลตามโจทย์ธุรกิจของแต่ละองค์กร ช่วยให้องค์กรไม่ต้องแบกภาระด้านการลงทุนในระบบและการจ้างบุคลากรเฉพาะด้าน สามารถใช้บริการ Data Science as a Service ของ SCB TechX ได้อย่างคล่องตัว เพียงแค่มีข้อมูลและโจทย์ทางธุรกิจ (Business Requirement) เท่านั้น ลดเวลาในการติดตั้งระบบด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วยตนเอง ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว พร้อมต่อยอดเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายด้านวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงได้”

ดร. ดนัยยังบอกด้วยว่า ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการในรูปแบบ Platform as a Service โดยสามารถบริหารจัดการข้อมูลบนแพลตฟอร์มของ SCB TechX พร้อมเซอร์วิสโซลูชันที่ดูแลทุกขั้นตอนในแพลตฟอร์มเดียว หรือจะเลือกใช้บริการแบบ Software as a Service สำหรับลูกค้าที่ต้องการให้ข้อมูลอยู่เฉพาะภายในองค์กร ทาง SCB TechX ก็มีบริการติดตั้ง Enterprise Data Platform ให้กับ Cloud ของลูกค้า พร้อมให้บริการ Professional Services ตามความต้องการขององค์กรเช่นกัน

“ถ้าให้สรุปว่าทำไมต้องใช้ TechX Data Platform ข้อแรกคือ TechX Data Platform เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถบริหารจัดการ Data และ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบ One Stop Solution สามารถปรับแต่งโซลูชันตามความต้องการของลูกค้าองค์กรได้ ดูแลโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชันของธนาคาร”

ทั้ง eKYC และ TechX Data Platform เป็นเพียงตัวอย่างเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยทีม SCB TechX ใครที่สนใจและอยากรู้ ทีมนี้ยังมีไอเท็มลับที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับองค์กรหรือธุรกิจคุณได้อย่างไร ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง https://www.scbtechx.io/services-products และ https://www.facebook.com/scbtechx หรือติดต่อ Email: contact@scbtechx.io

Related content

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

Related content

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ