ทะยานสู่โลกการเงินแห่งอนาคตเต็มรูปแบบกับ ‘Token X’ ผ่าน ICO Portal และ RealX Token

: ทะยานสู่โลกการเงินแห่งอนาคตเต็มรูปแบบกับ ‘Token X’ ผ่าน ICO Portal และ RealX Token

ทะยานสู่โลกการเงินแห่งอนาคตเต็มรูปแบบกับ ‘Token X’ ผ่าน ICO Portal และ RealX Token

SCBX และบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ ABACUS digital, MONIX, Token X, SCB DataX, SCB TechX และ SCB 10X พร้อมด้วย SCB เข้าร่วมนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะขับเคลื่อนและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โลก ในงาน Techsauce Global Summit 2023

ภาพรวมของเนื้อหา

SCBX และบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ ABACUS digital, MONIX, Token X, SCB DataX, SCB TechX และ SCB 10X พร้อมด้วย SCB เข้าร่วมนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะขับเคลื่อนและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่โลก ในงาน Techsauce Global Summit 2023 งานประชุมด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ภายใน AREA X by SCBX ตลอด 2 วัน ได้เปิดเวทีเพื่อแบ่งปัน 13 หัวข้อสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีของบริษัทในกลุ่ม SCBX ไปจนถึงแนวทางขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ร่วมกันของ SCB

ประเด็นที่น่าสนใจและน่าจะเป็นประโยชน์ทั้งกับนักลงทุนและคนทำธุรกิจที่มองหาเครื่องมือสร้างความเติบโตแบบก้าวกระโดดคือ หัวข้อที่พูดถึง RealX Token โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีคอนโดมิเนียมเป็นสินทรัพย์อ้างอิง และแพลตฟอร์ม Token X จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร

วนิตา ลิมมะณีประเสริฐ Chief Investment Officer บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ ‘Token X’ กล่าวว่า “RealX Token เป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนใน Investment Token ผ่าน Token X ซึ่งทำหน้าที่เป็น ICO Portal โดยมีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีย่าน CBD ได้แก่ ทองหล่อ พร้อมพงษ์ และพญาไท ซึ่งถือเป็นย่านที่ห้องชุด Resale มีการเติบโตสะสมเฉลี่ย 6.0-6.7% ทุกปี (ข้อมูลเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ระหว่างปี 2559-2564) ปัจจุบัน RealX Token ถือเป็น Investment Token ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นคอนโดมิเนียมตัวแรกของไทยที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต.”

มีหลายข้อสนับสนุนที่ทำให้ RealX Token เหมาะกับนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพการเติบโตของคอนโดมิเนียมในย่าน CBD แต่อาจไม่มีเงินทุนมากพอในการเป็นเจ้าของ หรือไม่มีเวลาในการบริหารจัดการ แต่ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง THE STANDARD จึงสรุป 5 จุดเด่นของ ‘RealX Token’ ที่คุณควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุน

5 จุดเด่นของ ‘RealX Token’

1. RealX Token มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีย่าน CBD

ได้แก่ ทองหล่อ พร้อมพงษ์ และพญาไท ที่ใครก็เป็นเจ้าของโทเคนดิจิทัลนี้ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 182 บาทต่อ 1 Token โดยจะใกล้เคียงกับการได้รับผลตอบแทนการลงทุนในพื้นที่ประมาณ 1 ตารางนิ้ว ไม่แบ่งแยกห้อง ชั้น และขนาดห้อง ที่สำคัญการครอบครอง RealX Token จะได้รับผลตอบแทนเสมือนเป็นเจ้าของห้องทั้งหมด โดยได้รับส่วนแบ่งค่าเช่าสุทธิและรายได้จากการขายสินทรัพย์สุทธิทั้งหมด

2. มีการกำหนดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุน 10 ปี

ผลตอบแทนรายรับจากค่าเช่าและส่วนต่างของกำไร (Capital Gain) จากการขายคอนโดห้องที่กำหนดไว้จากโครงการ โดยมีบริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด (PARK) รับประกันรายรับสุทธิให้กับนักลงทุนในช่วง 5 ปีแรก อัตรา 4-5% ต่อปี ซึ่งเป็นผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่า ส่วนปีที่ 6-10 ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนรายไตรมาสจากการขายคอนโดและค่าเช่า โดยจะมีแผนการขายตามที่โครงการกำหนดไว้ ทั้งนี้ 5 ปีหลังจะไม่ได้การันตีรายรับสุทธิ

3. ผนึกพันธมิตรแกร่ง

ได้แก่ บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBAM) เป็นทรัสตี (Trustee), บริษัท เรียล เอสเตท เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด เป็นผู้ออก RealX Token, บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ภายในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันรายรับสุทธิ และ บริษัท แฮมตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) เป็นผู้บริหารจัดการคอนโดมิเนียมทั้ง 3 แห่ง

4. หมดกังวลเกี่ยวกับการหาผู้เช่า

การกำหนดราคาเช่า การทำเอกสารสัญญา ไปจนถึงการดูแลความสะอาด ซึ่งเป็น Pain Point ของการปล่อยเช่าคอนโด โดยมีบริษัท แฮมตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำเนินธุรกิจเช่าพักอาศัยพร้อมให้บริการมากว่า 20 ปี รับหน้าที่ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การบริหารผู้เช่า เก็บค่าเช่า และทำความสะอาด โครงการพาร์ค ออริจิ้นทั้ง 3 แห่งจะช่วยแบ่งเบาภาระนักลงทุนได้ทั้งหมด เมื่อเทียบกับการลงทุนจากการซื้อห้องชุดปล่อยเช่าเอง

5. สามารถเทรดได้บนตลาดรอง

ภายหลังการเสนอขาย RealX Token ในตลาดแรกเสร็จสิ้น ผู้ออกโทเคนจะนำ RealX Token เข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต.

รู้จักสินทรัพย์อ้างอิง ‘โครงการพาร์ค ออริจิ้น 3 ทำเลทอง’

1. โครงการพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ (Park Origin Phrom Phong)

คอนโดใจกลางสุขุมวิท บนพื้นที่สวนและส่วนกลางกว่า 10 ไร่ ตัวโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 24 และซอยสุขุมวิท 22 รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนเบญจสิริและสวนเบญจกิติ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์เพราะเป็นแหล่งรวมศูนย์การค้าระดับเวิลด์คลาส โรงแรมหรู อาคารสำนักงาน เดินทางสะดวกห่างจาก BTS พร้อมพงษ์เพียง 500 เมตร เป็นอีกหนึ่งทำเลพักอาศัยยอดนิยมของ Expat จำนวนห้องชุดเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนไม่เกิน 138 ห้อง

2. โครงการพาร์ค ออริจิ้น พญาไท (Park Origin Phayathai)

คอนโดรูปแบบ High Rise 35 ชั้น บนถนนพญาไท เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า 3 สาย BTS สถานีพญาไท, BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และ Airport Rail Link สถานีพญาไทที่เชื่อมต่อไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การเดินทางด้วยรถยนต์เข้าเมืองสะดวก สิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้านครบครันทั้งโรงพยาบาล สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้า เช่น โรงพยาบาลพญาไท, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลราชวิถี, โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวนห้องชุดเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนไม่เกิน 123 ห้อง

3. โครงการพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (Park Origin Thonglor)

โครงการ High Rise ระดับลักชัวรี ความพิเศษคือเป็นโครงการที่ได้ Nomura Real Estate บริษัทพัฒนาอสังหาอันดับต้นๆ จากญี่ปุ่น มาร่วมพัฒนาโครงการกับ Origin Property และยังได้ Tandem และ DWP บริษัทออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังมาร่วมออกแบบ ทำเลใจกลางทองหล่อ เข้า-ออกได้จากทองหล่อและเอกมัย อยู่ใกล้คอมมูนิตี้มอลล์, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติ เช่น Don Don Donki, theCOMMONS, J Avenue, The EmQuartier, UFM Fuji Super, โรงเรียนนานาชาติเอกมัย และโรงเรียนนานาชาติเซนต์ แอนดรูว์ส จำนวนห้องชุดเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนไม่เกิน 100 ห้อง

วนิตากล่าวว่า “นี่เป็นจังหวะที่เหมาะในการลงทุนคอนโด หากมองแค่ Supply ที่เข้าใหม่ในทำเลทองหล่อ พร้อมพงษ์ และพญาไทในช่วงหลายปีผ่านมา พบว่ามีโครงการเกิดใหม่น้อยมาก เพราะแทบไม่เหลือพื้นที่ในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ ในขณะที่แนวโน้มการเติบโตของอสังหาหลังได้รับผลกระทบช่วงโควิด หลังจากนี้อัตราการขายจะกลับขึ้นมา” 

ปัจจุบัน RealX Token กำลังเปิดขาย ICO ในราคาเสนอขายที่ 182 บาทต่อโทเคน จำนวนไม่เกิน 19,230,769 โทเคน รวมมูลค่าการเสนอขาย 2,400-3,500 ล้านบาท โดยจะนำเงินไปลงทุนในสัญญา RSTA (Revenue Sale and Transfer Agreement) ให้ได้กระแสรายรับจากทรัพย์สินของโครงการจากบริษัท เรียล เอสเตท อินทิเกรชั่น จำกัด ซึ่งจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์คอนโดพาร์ค ออริจิ้นทั้ง 3 ทำเล เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรม ชำระเงินกู้ยืมจากการระดมทุน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของผู้ออกโทเคนดิจิทัล

สามารถจองซื้อ RealX Token ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2566 ผ่านแอปพลิเคชัน Token X ได้ที่: https://tokenxapp.page.link/c6wA

สนใจ RealX Token คลิก: https://realxtoken.finance

อีกหนึ่งหัวข้อที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานก็คือ ‘How Token X’s platform helps your business grow’ โดย พนิต เวชศิลป์ Chief Technology Officer บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด

พนิตฉายภาพสเตจการเติบโตในการทำธุรกิจ และข้อแตกต่างระหว่างธุรกิจที่ต้องการเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปเทียบกับธุรกิจที่ต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งจำเป็นต้องมี Loyalty Platform ที่มีประสิทธิภาพเป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมแนะวิธีมองหา Loyalty Platform ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรักษาลูกค้าเก่า สร้างลูกค้าใหม่ ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง

  1. Reward Program เช่น คะแนนสะสม ส่วนลด หรือ Voucher
  2. Personalization ระบบที่สามารถเก็บและประมวลผลข้อมูลของลูกค้า เพื่อออกแบบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
  3. Analytics ระบบจะต้องสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าแต่ละคนได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ไหนที่ลูกค้ารายนี้ซื้อมากที่สุด หรือลูกค้าคนไหนชอบ Reward แบบไหน
  4. Multi-Channel Capabilities ความสามารถของแพลตฟอร์มที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจที่มีช่องทางการซื้อ-ขายและบริการที่หลากหลาย
  5. Gamification Features นำองค์ประกอบของเกมมาใช้สร้างประสบการณ์พิเศษ เช่น การสร้าง Tiering ให้กับลูกค้า เหมือนเวลาเล่นเกมแล้วได้อัปเลเวล
  6. CRM Immigration สามารถเชื่อมโยงข้อมูลของลูกค้าที่อยู่ใน CRM มาใช้ได้ทันที เพื่อสร้างแคมเปญที่เหมาะสมให้กับลูกค้า
  7. Ease of Use ใช้งานง่าย ทั้งกับลูกค้าและเจ้าของธุรกิจ

“ปัญหาส่วนใหญ่ที่เจอในการใช้ Loyalty Program คือ เมื่อเลือกใช้เจ้าใดเจ้าหนึ่งแล้วต้องอยู่กับเขาตลอดไป เนื่องจากข้อมูลของลูกค้าอยู่กับเขา ไม่สามารถดึงข้อมูลไปใช้กับแพลตฟอร์มอื่นได้” พนิตกล่าว

“ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เรามี นำไปสู่การพัฒนา Decentralized Loyalty Platform หรือการนำบล็อกเชนเข้ามาใช้ในการจดบันทึก Loyalty Point ของลูกค้า โดยลูกค้าทุกคนจะมี Token ที่อยู่ใน Wallet ของตัวเอง และเป็นเจ้าของ Point นั้นจริงๆ นอกจากนั้นเรายังสามารถสร้าง Ecosystem ให้ลูกค้าใช้ Point ได้จริง”

พนิตยกตัวอย่างว่า หากมีบริษัทที่ทำ Data Analytics ต้องการนำข้อมูลของบริษัทมาวิเคราะห์ สามารถเข้าไปดึงข้อมูลมาใช้ได้เลย เพราะ Loyalty Point อยู่บนบล็อกเชน

“Ecosystem ของระบบบล็อกเชนยังสามารถทำให้เกิด Point Exchange Platform ได้ด้วย คอนเซปต์เดียวกันกับ Decentralized Exchange แพลตฟอร์มที่ลูกค้าสามารถนำคริปโตมาแลกกันได้โดยไม่มีตัวกลาง โดยลูกค้าสามารถแลก Loyalty Point ของสองโปรแกรมระหว่างกันได้ทันที”

ปัจจุบัน Token X สามารถออก Token ได้ทุกวัตถุประสงค์ ทั้งโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) และโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) พร้อมทั้ง Technology Stack หรือชุดเทคโนโลยีที่เน้นตอบโจทย์การเข้าถึงบล็อกเชนและโทเคนให้เป็นเรื่องง่ายผ่าน TKX Enterprise Solutions

“เรามี OpenAPI Platform โดยลูกค้าสามารถเชื่อมกับบล็อกเชนของเราและดึงข้อมูลออกไปประมวลผลต่อได้ทันที มี Enterprise Features ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็นลูกค้าธุรกิจ และเราอยู่ในกลุ่มบริษัท SCBX ที่มีประสบการณ์พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน จึงรู้ว่า Business User ต้องการอะไร และนอกจากนั้นยังมีระบบที่ให้บริษัทเข้าไปดูได้ว่าลูกค้าของเขาใช้ Point ไปแล้วเท่าไร ใช้ไปกับอะไรบ้าง และสุดท้ายเรามี Ready-to-Use Front End เพราะบางครั้งธุรกิจไซส์เล็กที่ไม่พร้อมบริหารจัดการข้อมูลเองหรือยังไม่พร้อมลงทุนพัฒนาแอปพลิเคชัน สิ่งนี้จะตอบโจทย์ แค่สแกน QR ก็รับพอยต์ได้ทันที”

ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่ Token X เข้าไปซัพพอร์ตแล้ว เช่น BNK Token ที่ออกโดยบริษัท IAM ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการโหวตหา Senbatsu General Election หรือการโหวตในแคมเปญอื่นๆ ของวง BNK48 และ CGM48 มาพร้อมกับ Utility อื่นๆ เช่น นำโทเคนแลกสินค้าและบริการได้โดยตรงภายในแพลตฟอร์มของ BNK เอง

หรือแอปพลิเคชัน asap ผู้ให้บริการรถยนต์ให้เช่าชั้นนำของประเทศไทย พัฒนา ‘Utility Token พร้อมใช้’ ภายใต้ชื่อโทเคน ‘asap coin’ Loyalty Program ให้ลูกค้าซื้อโทเคนแล้วนำไปใช้สิทธิประโยชน์ในแอป asap

นอกจากนี้ Token X ยังเป็นผู้ให้บริการ ICO Portal (Initial Coin Offering Portal) ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อสร้างการลงทุนรูปแบบใหม่ผ่านโทเคนดิจิทัล โดยในประเทศไทยมีเพียง 7 บริษัทที่ได้รับความเห็นชอบให้ประกอบธุรกิจ ICO Portal นี้ ปัจจุบันโปรเจกต์ที่เข้ามา ICO เช่น ‘RealX Token’ เป็น Real Estate-Backed Token ที่มีสินทรัพย์อ้างอิงเป็นคอนโดมิเนียม และสามารถเทรดบนตลาดรองได้เช่นเดียวกับหุ้น

สุดท้ายพนิตกล่าวถึงข้อดีของการทำ ICO กับ Token X ว่า “เรามีกระบวนการทำ KYC ที่มีมาตรฐานผ่านแอปพลิเคชัน Token X ซึ่งเชื่อมต่อกับ SCB EASY เพื่อยืนยันตัวตน โดยแอปจะมี Wallet ในตัว นักลงทุนสามารถสมัคร Wallet และซื้อโทเคนเก็บใน Wallet ได้เลย และยังสามารถโอนโทเคนไปเทรดบนตลาดรองที่เปิดรับโทเคนนั้นได้ เช่น Bitkub หรือ TDX

ดูเหมือนว่าการพัฒนา Solution พร้อมใช้ผ่านการใช้ End-to-End Tokenization Solution and Platform หรือ RealX Token ที่หยิบยกมานำเสนอในงาน Techsauce Global Summit 2023 ครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำให้เห็นความมุ่งมั่นเดินหน้าตามภารกิจของ Token X ที่จะเป็น Tokenization Success Partner ให้กับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ และมุ่งหวังที่จะช่วยผลักดันภาคธุรกิจในประเทศไทยอย่างแท้จริง

สนใจผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมของ Token X สามารถดูข้อมูลและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Token X

Related content

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ

Related content

บทความอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ